ข่าวฟุตบอล บทที่50 ชาบี อลอนโซ ขีดเขียนประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ให้กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน กับการพาทีมคว้าแชมป์ บุนเดสลีกา 2024 มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งความสำเร็จนี้มีความหมายมากกว่านั้น
ข่าวฟุตบอล บทที่50
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ Neverkusen คือฉายาของ เลเวอร์คูเซน ซึ่งมาจากการที่พวกเขากลายเป็นทีมที่ไร้แชมป์ติดมือ
ในความเป็นจริง เลเวอร์คูเซน ได้ชื่อว่าเป็นทีมระดับชั้นนำของวงการฟุตบอลลีกเยอรมันพวกเขามีแฟนบอลให้การสนับสนุนจำนวนมากนับตั้งแต่เลื่อนชั้นสู่ลีกเมืองเบียร์ ในปี 1979 และได้ไปเล่นฟุตบอลยุโรปครั้งแรกเมื่อปี 1985
พวกเขาไต่เต้าและก้าวขึ้นสู่ทีมหัวตารางในปี 1985 อีกทั้งส่วนใหญ่มักจบอันดับไม่ต่ำกว่าที่ 8 และยิ่งไปกว่านั้นในช่วงปี 1993 ถึง 2004 พวกเขาเคยจบในอันดับท็อปทรี และมีถึง 4 ครั้งที่จบในอันดับรองแชมป์ นั่นจึงไม่แปลกที่จะทำให้ เลเวอร์คูเซน ถูกมองเป็นทีมใหญ่ และดีพอจะลุ้นแชมป์
แต่ก็อย่างที่ทราบกันว่านี่คือทีมที่ไม่เคยได้สัมผัสกับถ้วยแชมป์ บุนเดสลีกา เลยสักครั้งซึ่งเป็นเหมือนกับคำสาปตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ย้อนกลับไปในปี 2002 ในยุคที่เต็มไปด้วยสตาร์ดังอย่าง มิชาเอล บัลลัค, โอลิเวอร์ นอยวิลล์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ รวมถึงสองผู้เล่นระดับท็อปของทีมชาติบราซิลอย่าง ลูซิโอ และ เซ โรแบร์โต้
ซึ่งถูกกล่าวขานว่า เป็นหนึ่งในยุคที่ดีที่สุดของพวกเขา และมีลุ้นแชมป์ บุนเดสลีกา อย่างเต็มตัว รวมถึง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ เดเอฟเบ โพคาล ด้วย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ พวกเขาจบลงที่ตำแหน่งรองแชมป์ทั้งหมดอย่างไม่น่าเชื่อ
ในหน้าประวัติศาสตร์สโมสร พวกเขาประสบความสำเร็จคว้าแชมป์รายการสำคัญครั้งแรกกับถ้วย ยูฟ่าคัพ ฤดูกาล 1987/88 จากนั้นก็เกิดการหลั่งไหลเข้ามาของแข้งชาวบราซิลเป็นครั้งแรก รวมไปถึงสองแข้งหลักในยุคนั้นอย่าง จอร์จินโญ่ และ เปาโล แซร์จิโอ ในปี 1993 พวกเขาคว้าคว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล อีกหนึ่งโทรฟี่มาประดับตู้โชว์
จากนั้นสโมสรก็จบฤดูกาลในลีกภายในประเทศได้ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาด้วยการจบอันดับสองตามหลัง บาเยิร์น มิวนิค ในฤดูกาล 1996/97 ด้วยความแตกต่างเพียงสองแต้ม แต่โดยทั่วไปแล้วมันถือเป็นผลงานที่ไม่คาดคิดสำหรับแฟนบอลทั่วไป นอกจากนี้ยังนำพวกเขาเข้าสู่ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกเป็นครั้งแรกโดยเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศกับ เรอัล มาดริด แต่การไปถึงแชมป์ก็ยังไม่เคยเกิดขึ้น
พวกเขาจบอันดับรองแชมป์อีกครั้งตามหลังบาเยิร์นในซีซั่น 1998/99 และเมื่อพิจารณาช่องว่าง 15 แต้มในท้ายที่สุด พวกเขาคงจะไม่หงุดหงิดหรือเสียดายจนเกินไป เพราะมันไม่ได้เฉียดเข้าใกล้แชมป์เลยแม้แต่นิดเดียว
อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านเวลาไปอีกหลายปี ท้ายที่สุด ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ก็ลบฉายา Neverkusen ลงได้ ด้วยขุมกำลังที่อยู่ภายใต้การคุมทีมของกุนซือที่เพิ่งจะจับงานเฮดโค้ชทีมชุดใหญ่ครั้งแรกอย่าง ชาบี อลอนโซ
ที่สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ของสโมสรในฤดูกาล 2023/24 กำจัดคำสาปดังกล่าวลงได้ โดยการันตีแชมป์บุนเดสลีกาตั้งแต่ยังไม่ปิดซีซั่น และยังเหลือเกมอีก 5 เกม อีกทั้งยังสร้างสถิติไม่แพ้ใครในการแข่งขัน 46 นัดรวมทุกรายการให้กับฟุตบอลเยอรมัน
สิ่งที่ทำให้ เลเวอร์คูเซน ก้าวสู่ความสำเร็จในครั้งนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ชาบี มีผลสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งมันไม่ใช่แค่เรื่องของแทคติกการคุมทีมเพียงเท่านั้น แต่อยู่ที่เรื่องบริหารจัดการทีมด้วย การบริหารจัดการผู้เล่นของ ชาบี ถือว่าชั้นหนึ่ง แม้ว่าจะมีผู้เล่นบาดเจ็บ แต่เขาก็มีวิธีที่จะใช้ผู้เล่นที่เหลืออยู่ให้เกิดศักยภาพสูงสุด
ประกอบกับระบบการเล่นที่โดดเด่นเรื่องการผ่านบอลที่มีความแม่นยำสูง จะเห็นได้ว่าการเข้าทำของพวกเขาทั้งสวยงาม และมีแบบแผน การแก้เพรสซิ่ง เปลี่ยนจากเกมรับเป็นรุก ทุกอย่างเกิดจากการทำงานรวมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
“ผมโล่งใจมาก” ไรเนอร์ คาลมุนด์ อดีตซีอีโอของสโมสรกล่าว หลังจากได้เห็นสโมสรประสบความสำเร็จสุดยิ่งใหญ่ และได้เห็น ชาบี อลอนโซ ลบฉายาที่พวกเขาถูกตราหน้ามาหลายสิบปีลงได้