ข่าวฟุตบอล บทที่53 ศึกลา ลีกา 2024 เตรียมเข้าสู่ฤดูกาลใหม่กับซีซั่นที่น่าจะเข้มข้น เมื่อดูจากการเสริมทัพผู้เล่นที่เข้ามาใหม่ของแต่ละทีม ประกอบกับคุณภาพของผู้เล่นที่โชว์ผลงานในเกมอุ่นเครื่องที่ผ่านมา
ข่าวฟุตบอล บทที่53
ลีกแดนกระทิงดุ มี เรอัล มาดริด เป็นเต็งแชมป์ฟุตบอลลีกสเปนในฤดูกาลนี้อย่างไม่ต้องสงสัย โดยซีซั่นที่ผ่านมา พวกเขาทำให้ บาร์เซโลนา ต้องเจ็บช้ำ เมื่อปิดจ็อบแชมป์ชนิดที่คู่อริตลอดการหมดลุ้นไปตั้งแต่ยังไม่ปิดฤดูกาล
หนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ มาดริด ครองแชมป์ได้อีกสมัยไม่ได้อยู่แค่ฝีเท้าผู้เล่นเท่านั้น แต่มาจากชายที่ชื่อ คาร์โล อันเชล็อตติ ที่วางระบบจัดการในทีมได้เป็นอย่างดี แม้จะเต็มไปด้วยสตาร์ดัง แต่ไม่มีใครใหญ่เกิน อันเช่ นักเตะต่างให้ความเคารพ และผลลัพธ์ที่ออกมาคือการชูถ้วยแชมป์
นอกจากนี้ อันเช่ ยังบริหารจัดการทรัพยากรได้เป็นอย่างดี นั่นทำให้เราได้เห็นแล้วว่า แม้พวกเขาจะมีผู้เล่นบาดเจ็บหรืออาจเกิดปัญหาเรื่องความฟิต แต่ทำไม ราชันชุดขาว ยังคงเดินหน้าคว้าชัยชนะได้เสมอ
ส่วนในช่วงปรีซีซั่น ด้วยโปรแกรมที่อัดแน่นมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้ มาดริด จึงวางเกมอุ่นเครื่องเพียง 3 นัดเท่านั้น ซึ่งหากดูที่ผลสกอร์ อาจทำให้แฟนบอลกังวลเล็กน้อย เมื่อแพ้ เอซี มิลาน และบาร์ซา 2 นัดติด ก่อนจะมาชนะ เชลซี 2-1 ส่งท้ายปรีซีซั่น
แต่เมื่อมองลึกลงไปมากกว่านั้น อันเช่ ไม่มีแข้งจากโคปา และ ยูโร ในช่วงแรก นั่นทำให้เขาขาดกำลังหลัก และมุ่งเน้นไปที่การทดลองผู้เล่นใหม่ๆ เพื่อเป็นขุมกำลังในอนาคต ส่วนรายของ คีเลียน เอ็มบัปเป้
ก็ไม่ได้เดินทางไปทัวร์กับทีม ขณะที่ เอ็นดริก เด็กระเบิดทีมชาติบราซิล วัย 18 ปี ได้รับโอกาสลงเล่นไปแล้ว แม้จะยังโชว์ฟอร์มไม่ออก แต่ก็เป็นเรื่องดีที่ได้สัมผัสประสบการณ์เกมยุโรป
ส่วนในเกมกับ เชลซี พวกเขาได้ผู้เล่นจากทีมชาติกลับมาช่วยทีมได้ทัน นั่นทำให้ มาดริด กลับมาแข็งแกร่งเหมือนเดิม ซึ่งเรียกความมั่นใจได้ดีทีเดียวก่อนจะเตะ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ กับ อตาลันต้า ในวันที่ 14 สิงหาคม 2024
ด้าน คาร์โล อันเชล็อตติ ก็ยอมรับว่า เกม ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ จะเป็นเกมที่ยาก เพราะเป็นช่วงเริ่มต้นฤดูกาลและนักเตะก็มีเวลาไม่นานในการเตรียมตัวสำหรับการแข่งขัน แต่พวกเขาก็ก้าวเข้าสู่การแข่งขันด้วยความมั่นใจและความเชื่อมั่น
นอกจากนี้เขายังเชื่อมั่นว่า เอ็มบัปเป้จะนำคุณภาพมาสู่ทีม รวมถึงทัศนคติและระเบียบวินัยที่จะทำให้ทุกคนใน เรอัล มาดริด ตื่นเต้นมากที่ได้เขามาอยู่ที่นี่
อย่างที่ทราบกันว่า มาดริด เสีย โทนี่ โครส ที่แขวนสตั๊ด กลายเป็นจุดใหญ่ที่ทีมต้องขาดส่วนสำคัญไป แต่ก็เป็นเรื่องดีที่มี ลูก้า โมดริช ต่อสัญญาช่วยทีมออกไปอีกหนึ่งฤดูกาล อันเช่ เองก็รู้ปัญหานี้ดี นั่นทำให้พวกเขาขยับเสริมผู้เล่นอายุน้อยเข้ามา
ซึ่งในฤดูกาลนี้เราน่าจะได้เห็น อาร์ดา กูแลร์ เฉิดฉายมากขึ้น และดูเหมือนว่า อันเช่ ก็จะชอบดาวรุ่งรายนี้เอามากๆ เมื่อเขาออกมาบอกว่า รู้สึกสนุกกับการร่วมงานกับกูแลร์และเอ็นดริกมาก เพราะทั้งคู่เรียนรู้ได้เร็วมาก ยินดีรับฟังคำแนะนำเสมอ
ดังนั้นการเข้ามาผนึกกำลังกับกลุ่มผู้เล่นอย่าง วินิซิอุส จูเนียร์, โรดรีโก้, กามาแว็งก้า หรือเบลลิงแฮม จะทำให้ มาดริด เป็นเต็งหนึ่งในการชูถ้วยแชมป์อีกสมัยอย่างไม่ต้องสงสัย
ฝั่งของ บาร์เซโลนา ปัญหาใหญ่ที่มีมาตลอดในช่วงหลังคืองบประมาณทำทีม แต่พวกเขาก็ผลักดันดาวรุ่งขึ้นมาทดแทนได้เสมอ ซึ่งในซีซั่นนี้เราจะได้เห็นขุมกำลังใหม่ของ บาร์ซา ที่มีคุณภาพมากพอจะช่วยทีมลุ้นแชมป์แน่นอน
หลังลงโชว์ฝีเท้าในเกมปรีซีซั่นมาแล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า อาจเป็นเรื่องยากในการฝ่าฟันทวงแชมป์ลีกกลับมาครอง
ทางด้าน แอตเลติโก มาดริด ผลงานปรีซีซั่นน่าสนใจดีเดียว เมื่อชนะรวดตลอด 4 เกมที่ลงเล่น การกลับมาของ ชูเอา เฟลิกซ์ ก็เติมเต็มได้ดี แม้ว่าจะเกิดกระแสต่อต้านจากแฟนบอลก็ตาม แต่ทีมที่น่าห่วงที่สุดในบรรดาทีมที่เคยอยู่หัวตารางในซีซั่นก่อนก็คือ กิโรน่า
ผลงานปรีซีซั่นของ กิโรน่า ไม่ดีเท่าซะเลย ซึ่งปัญหาใหญ่มาจากการที่ปล่อยผู้เล่นหลักออกจากทีม แต่การจะบอกว่า กิโรน่า อาจหลุด Top 4 คงไม่ใช่ซะทีเดียว เพราะจุดแข็งของพวกเขาคือทีมเวิร์คที่มั่นคง ดังนั้นต้องรอดูกันยาวๆ